2744 จำนวนผู้เข้าชม |
ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า
จากตำนานในอดีตสู่เรื่องราวปัจจุบัน ภูฏาน…ดินแดนแห่งขุนเขาอันลึกลับแห่งนี้เป็นที่สนใจของเหล่าผู้คนที่อยากค้นหาเสน่ห์แห่งความงดงามของธรรมชาติและความสงบสุขที่มิสามารถเปรียบเทียบกับที่อื่นใดในโลก พร้อมกลิ่นอายของวัฒนธรรม และประเพณีที่สืบทอดกันมาของภูฏาน จากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งยังคงมีให้เห็นเป็นรูปธรรม ศิลปะและสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ และรูปแบบเฉพาะตัว มีปรากฏอยู่ให้เห็นทั่วทุกหนทุกแห่งของภูฏาน รอยยิ้มแห่งความเป็นมิตรที่จริงใจและซื่อบริสุทธิ์ของชาวภูฏาน ที่ผู้คนสามารถพบได้ทั่วไป.….และนี่เองที่ทำให้ภูฏาน แตกต่างจากทุกๆ ที่ในโลกใบนี้ โดยสายการบินภูฏาน แอร์ไลน์ (B3) * เรานิมนต์พระรินโปเชให้ศีลและพรแด่ท่านพร้อมทั้งรับของที่ระลึกจากมือรินโปเช (รินโปเช คือพระที่ได้รับการพิสูจน์ว่ากลับชาติมาเกิดและได้รับความเคารพนับถือ เป็นอย่างมากจากชาวภูฏาน) * รถขนกระเป๋าบริการและเช็คอินให้ก่อนโดยที่ท่านไม่ต้องรอ * ระบำพื้นเมืองและระบำหน้ากาก * อาหารเสริมจากเมืองไทยอย่างน้อยมื้อละ 1 อย่าง * อาหารแต่ละมื้อจะมีเนื้อสัตว์อย่างน้อย 2 อย่าง ยกเว้นที่วัดชิมิและบนเขาตั๊กซัง * ทุกมื้อเช้าเราจัดเตรียมข้าวต้มและเครื่องเคียงสำหรับท่าน * น้ำดื่มวันละ 3 ขวด * บริการชา กาแฟหลังอาหารเที่ยงหรือเย็นวันละ 1 ครั้ง * บริการอาหารไทยจากพ่อครัวชาวไทยที่ร้าน “สุโขทัย” * รวมค่าม้าขึ้นวัดตั๊กซังจนถึงจุดชมวิว |
|||||||||
กำหนดการเดินทาง
ดาวน์โหลดใบจองทัวร์ ดาวน์โหลดโปรแกรม
หมายเหตุ : * ออกเดินทางเดินทาง 15 ท่านขึ้นไป * ราคานี้ไม่รวม ทิป ไกด์ , คนขับ , รถกระเป๋า ท่านละ 30 USD |
|||||||||
วันแรก
|
กรุงเทพฯ – พาโร – ทิมพู
|
||||||||
04.00 น.
|
พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 5 เคาน์เตอร์ K สายการบินภูฏานแอร์ไลน์ Bhutan Airlines
|
||||||||
06.30 น. |
เดินทางสู่ภูฏาน โดยสายการบินภูฏานแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ B3-701
|
||||||||
09.45 น. |
ถึง สนามบินพาโร เมืองที่ตั้งท่าอากาศยานของภูฏาน (เวลาท้องถิ่นภูฏาน ช้ากว่าที่ประเทศไทย 1 ช.ม.) ชมอาคารที่ พักผู้โดยสาร ซึ่งออกแบบด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภูฏาน เป็นอาคารไม้ ประดับภาพจิตรกรรม และภาพแกะสลักวิจิตรบรรจง เข้าไม้โดยไม่ใช้ตะปู หลังคาใช้ไม้แผ่นวางซ้อนกันแล้วใช้ก้อนหินทับป้องกันลมพายุ พัดปลิวจากนั้นชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองพาโร (Paro National Museum) ตั้งอยู่บนอาคารทรงกลม ซึ่งเคยเป็น “หอสังเกตการณ์รบ” หรือ “ตาซอง” (Ta Dzong) มีอายุ เก่าแก่กว่า 350 ปี สร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2192 (ร่วมสมัยพระเจ้า ปราสาททอง) ก่อนดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ ใน พ.ศ.2511 โดยกษัตริย์ จิกมี่ ดอร์จิ วังชุก รัชกาลที่ 3 ผู้ได้รับการยกย่อง เป็น “บิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” ชม อลังการแห่งผ้าพระบท (ตังกา) แผนภูมิศักดิ์สิทธิ์ของ ชาวพุทธวัชรยาน (มันดาลา) ตลอดจนอาวุธ เครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรีคัมภีร์พระไตรปิฎกรวมถึงแสตมป์ หรือดวงตราไปรษณีย์ที่ทำให้ภูฏานขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ออกแบบแสตมป์สวยที่สุด จากนั้นนำท่านสู่ “พาโร ซอง” Paro Dzong คำว่า “ ซอง” สถานะเป็นทั้งป้อมปราการสำนักบริหาร ราชการเมือง อารามหลวงและสนามหลวง กล่าวได้ว่า “ซอง” คือจิตวิญญาณของชาวภูฏาน ซึ่งรวมประเทศได้จากการรวม “ซอง” ต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว ชม พาโรซอง ภายนอก จะเห็น สะพานไม้ข้ามลำน้ำพาโรสู่ตัวซองอันงามสง่า
|
||||||||
เที่ยง |
รับประทานอาหารอาหารกลางวัน ณ โรงแรม Olathang
|
||||||||
บ่าย | จากนั้นเดินทางด้วยรถโค้ช สู่ ทิมพู (Thimphu) ระยะทาง 65 ก.ม. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ช.ม.) ถึง ทิมพู นครหลวงของภูฏาน ที่ระดับความสูง 2,350 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ดอยอินทนนท์ 2,565 เมตร เมืองลี่เจียง 2,200 เมตร จงเตี้ยน 3,300 เมตร) ได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่ จุดชมวิวเมืองทิมพู ชม “ลุงตะ” หรือ ธงพระบัดพลิ้วเหนือลำน้ำทิมพู ซึ่งไหลขนาบ ข้าง “ทิมพู ซอง” ที่เป็นทั้งสำนักพระราชวัง และทำเนียบรัฐบาล ระหว่างทางแวะถ่ายรูป วัดตัมโช (Tamchoe Monastery) ซึ่งมีสะพานเหล็กทอดไปอีกฝั่ง เป็นวัดที่สร้างโดยพระที่เดินทางมาจากทิเบตต้องการมาหาแร่เหล็ก และท่านคิดค้นการทำโซ่เหล็กเป็นครั้งแรก ซึ่งท่านได้เห็นในพิพิธภัณฑ์ที่พาโรด้วย และแวะถ่ายรูปกับเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นเจดีย์แบบทิเบต ภูฏาน และเนปาลที่ ด่านชูซอม (Chuzom) ถึงเมืองทิมพู นำท่านไป สวนสัตว์ ชม “ทาคิน” เป็นสัตว์พิเศษ ที่มีลักษณะผสมระหว่าง แพะกับวัว เป็นสัตว์ที่มีเฉพาะในภูฏานเท่านั้น ถือเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน (National Animal of Bhutan) ชม “ทิมพู ซอง” Thimpu Dzong หรือชื่อทางการว่า “ตาชิโช ซอง”(Tashicho Dzong) ซึ่งเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ในปัจจุบันแบ่งเป็นพระตำหนักฤดูร้อน ในสมเด็จพระสังฆราชภูฏาน พระอารามหลวง สำนักพระราชวัง ทำเนียบรัฐบาล ห้องประชุมรัฐสภาแห่งชาติ โดยแบ่งเป็นห้องต่าๆ กว่า 100 ห้อง แต่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะท้องพระโรงใหญ่ ซึ่งประดับภาพจิตรกรรมผาผนัง และผ้าพระบทที่เล่าเรื่องราวในพุทธศาสนาสายวัชรยาน โดยเฉพาะตำนานแห่ง “พระปัทมสัมภวะ” หรือ “พระปทุมสมภพ” (แปลว่า ผู้กำเนิดจากดอกบัว) ภาคหนึ่งของพระพุทธเจ้าที่ชาวภูฏานนับถือเป็นอาจารย์ใหญ่ ผู้นำศาสนาพุทธนิกายวัชรยานตันตระมาเผยแผ่ในดินแดนนี้ เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน เรียกขานในภาษาทิเบตว่า “กูรู” | ||||||||
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารสุโขทัย
แล้วนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Ro Chog Pel หรือเทียบเท่า |
||||||||
วันที่สอง |
ทิมพู – ปูนาคา
|
||||||||
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเช้า ออกเดินทางราว 45 นาทีสู่ “โดชูลาพาส ”
(Dochula Pass) ระหว่าทางแวะชมวิวพร้อมนมัสการพระพุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดในภูฏานที่ Kuenselphodrang หรือ Big Buddha ที่สร้างอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าฮวงจุ้ยดีที่สุดของภูฏาน จากนั้นออกเดินทางต่อไปยัง “โดชูลาพาส ” ( Dochula Pass) หรือช่องเขาศิลาที่มีระดับความสูง 3,145 เมตร ซึ่งมีสถูป “ดรุค วังเกล” (Druk Wangyel Chorten) หรือสถูปแห่งความเป็นสิริมงคลและ สันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์ ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อ ถวายพระโพธิสัตว์ของชาววัชรยาน 108 องค์ โดยสมเด็จพระราชินี อะชิ ดอร์จิ วังโม นำท่านชมวิว ยอดเขาซึ่งสูงกว่า 7,000 เมตร หลากหลายยอด และชม ยอดเขาโต๊ะซึ่งมียอดแบนราวกับโต๊ะ และนำท่านจิบชากาแฟเพื่อชมบรรยากาศอันสวยงาม ณ จุดชมวิวบนเขา จากนั้นเดินทางต่อ สู่วัดชิมิ |
||||||||
เที่ยง |
รับประทานอาหารอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chimi Cafe
นำท่าน ชมวิว Chimi Lhakhang หรือวัดแห่งการเกิด ซึ่งชาวภูฏานเชื่อว่าคู่รักใดไม่มีลูกให้มาขอพรที่วัดนี้แล้วจะสมหวังสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดย ท่านลามะ Drukpa Kuenley (ท่านที่มีความประสงค์ที่จะเดินไปนมัสการวัด ชิมิ จะมีไกด์พาไปถึงที่วัด ใช้เวลาเดินประมาณ ½ ชั่วโมงต่อเที่ยว ) จากนั้นเดินทางต่อ สู่เมือง ปูนาคา (Punakha) ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร (ต่ำกว่าทิมพูราว 1,000 เมตร) จึงมีสภาพอากาศอบอุ่นกว่าทิมพู กษัตริย์ภูฏานและ สมเด็จพระสังฆราชจะทรง เสด็จแปรพระราชฐานในฤดูหนาว(ช่วงเดือน พ.ย.- เม.ย.) ปูนาคาจึงเป็น “เมืองหลวงฤดูหนาว” (Winter Capital) ในขณะที่ทิมพูเป็น “ เมืองหลวงฤดูร้อน ”และเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ จากนั้นนำท่านชม “ปูนาคา ซอง” (Punakha Dzong) ที่มีตำนานว่า “กูรู รินโปเช” หรือ “พระปทุมสมภพ” ทรงมีพุทธทำนายว่า จะมีบุรุษนาม “นัมเกล” มาสร้างป้อมปราการ หรือ “ซอง” บริเวณด้านหน้าเขา รูปงวงช้างแห่งนี้ ซึ่งคำทำนายเป็นจริง เมื่อท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล ประมุขฝ่ายอาณาจักรและ ศาสนจักรสร้าง “ปูนาคา ซอง” เป็นที่ประทับเมื่อราว 350 ปีก่อน(ก่อนไปสร้าง “ตาชิโช” ซองที่ทิมพู ) “ปูนาคา ซอง” โดดเด่น ณ จุดบรรจบลำน้ำโม (โม=ผู้หญิง) กับลำน้ำ โป (โป=ชาย)รวมกันเป็นแม่น้ำ ปูนาซัง ทั้งนี้ “ปูนาคา ซอง” ถือเป็น “ซอง” ที่สำคัญที่สุดของภูฏาน เพราะเป็นสถานที่เก็บ พระอัฐิ ของท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล และ ยังเป็นสถานที่ ซึ่งพระเจ้าอุกเยน วังชุก ได้กระทำพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งภูฏาน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2450 ( ต่อมาจึงกำหนดให้ทุกวันที่ 17 ธ.ค. เป็นวันชาติภูฏาน ) “ปูนาคา ซอง” เป็นซองขนาดใหญ่มาก นอกจากมีพระตำหนักมีศาลาว่าการของ เมืองแล้ว ยังมีโบสถ์ วิหาร ประดิษฐานในซองนี้ถึง 21 แห่ง มีภิกษุสามเณรจำพรรษากว่า 6,000 รูป แม้จะเคยเกิดไฟไหม้ถึง 6 ครั้ง น้ำท่วมและแผ่นดินไหว อย่างละครั้ง แต่ยังคงความสง่างามตราบจนวันนี้ นำท่านทาน ชา กาแฟ ของว่าง และชมบรรยากาศริมแม่น้ำ ปูนาซังชู |
||||||||
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
แล้วนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Damchen หรือเทียบเท่า |
||||||||
วันที่สาม |
ปูนาคา – ทิมพู
|
||||||||
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทิมพู ระหว่างทางแวะพัก ทาน ชา กาแฟ ที่ โดชูลาพาส ถึงเมือง ทิมพู ระหว่าทางชม ซิมโทกา ซอง ซึ่งเป็นซองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่สอนภาษา “ซองคา” ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ
|
||||||||
เที่ยง |
รับประทานอาหารอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารสุโขทัย
ทางบริษัทได้จัดเตรียมชุด “ คีรา” และ “โค” ชุดประจำชาติของภูฏาน ให้ท่านได้สวมใส่เที่ยวในเมืองทิมพู ท่านชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์พื้นบ้าน (The Folk Heritage Musuem ) จัดแสดงวิถีชีวิตเละวัฒนธรรมของชาวภูฏาน ชม Handicrafts Emporium ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านที่มีทั้งงานแกะสลักและงานผ้าพื้นเมืองอันปราณีตของชาวภูฏาน นำชม พิพิธภัณฑ์ผ้าทอ (Textile Museum) นำชม Stamp ที่ทำการไปรษณีย์เมืองทิมปู ประเทศภูฏานได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ออกแบบแสตมป์ได้สวยที่สุดประเทศหนึ่ง ชม โรงเรียนสอนงานศิลปะ (The School of Arts and Crafts or the Painting School) ซึ่งท่านจะได้เห็นเด็กนักเรียนชายที่รักการเรียนทางด้านศิลป์กำลังประดิษฐ์งานศิลปะแขนงต่างๆ เช่นการแกะสลักไม้ การปั้นพระพุทธรูปปูนปั้น การวาดภาพพระบฏ หรือภาพทังก้า (ยกเว้นช่วงปิดเทอมและวันหยุดราชการ) ชม Memorial Chorten หรือมหาสถูปที่พระเจ้าจิกมี ดอร์จี วังชุก ซึ่งเป็นพระชนกของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน (พระเจ้า จิกมี ซิงเย วังชุก) พระองค์เป็นกษัตริย์องค์ที่3 ที่ปกครองภูฏาน ในช่วงปีค.ศ.1952 – 1972 และทรงได้รับพระฉายาว่า “พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” (King of Merdernization) มีประสงค์จะสร้างเพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา แทนสัญลักษณ์ กาย วาจาและใจ ของพุทธศาสนา แต่ท่านได้เสียชีวิตลงเสียก่อน สมเด็จพระราชินีจึงได้ดำเนินการสร้างต่อจนแล้ว (หากไม่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ให้ท่านแวะชมและเลือกซื้อแสตมป์ที่ระลึก ณ ไปรษณีย์ทิมพู หากตรงกับวันเสาร์และวันอาทิตย์นำท่านชม ตลาดนัดพื้นเมือง Weekend Market) จากนั้นเชิญท่านร่วมทำบุญในแบบภูฏานพร้อมทั้งรับศีลรับพรจากพรสงฆ์ระดับรินโปเช ซึ่งเชื่อว่ามีการกลับชาติมาเกิดหลายครั้งของภูฏาน นำชมระบำหน้ากาก ซึ่งเป็นการเต้นรำทางศาสนา และ ชมการเต้นรำพื้นเมืองซึ่งรวบรวมมาจากทั่วประเทศ |
||||||||
18.00 น. |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
แล้วนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Ro Chog Pel หรือเทียบเท่า |
||||||||
วันที่สี่ |
ทิมพู – พาโร
|
||||||||
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช้านำออกเดินทางสู่เมืองพาโร จากนั้นนำท่านชมวัดตั๊กซัง หรือวัดถ้ำเสือ ซึ่งเป็นวัดที่อยู่บนหน้าผา ถ้าเดินขึ้นต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เป็นวัดสำคัญของภูฏาน คนที่นี่ทุกคนอย่างน้อยต้องขึ้นไปให้ได้อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นสถานที่ๆ กูรู รินโปเช ได้ขี่นางเสือขึ้นไปและได้นั่งสมาธิในถ้ำ จึงได้ชื่อว่าวัดถ้ำเสือหรือรังเสือ ท่านที่มีความประสงค์จะไม่เดินขึ้นไปถึงวัดตั้กซังกรุณาแจ้งล่วงหน้า เพราะต้องขึ้นแต่เช้า |
||||||||
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ “วัดคิชู (Kichu Temple)” วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน ตามประวัติว่าสร้างตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือราว 1,300 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ภูฏานยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทิเบต กษัตริย์ซองเซนกัมโป ซึ่งชาวทิเบตยกย่องว่า เป็นผู้อัญเชิญศาสนาพุทธสายวัชรยานตันตระมาประดิษฐานในทิเบต โปรดสร้างวัด 108 แห่ง เพื่อตอกอวัยวะ 108 จุด ของยักษ์ตนหนึ่ง ซึ่งนอนแผ่ทับเทือกเขาหิมาลัยไว้ หมายจะให้สัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเผยแผ่ไปถึง โดยจุดที่สร้างวัดคิชูที่เมืองพาโรเป็นเท้าซ้ายของยักษ์ (อีกวัดหนึ่งในภูฏานอยู่ที่เมืองบุมทัง สร้างตรงเข่าซ้ายของยักษ์) ชมวิหารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกษัตริย์ ซองเซน กัมโป ซึ่งปูพื้นด้วยไม้แผ่นใหญ่ ตรงบริเวณเบื้องหน้าพระปฏิประธานมีรอยบุ๋มลึก เนื่องจากมีผู้แสวงบุญมายืนและก้มลงกราบพระแบบ “อัษฎางค-ประดิษฐ์” (ร่างกายแตะพื้น 8 จุด) ซ้ำ ๆ กันเป็นเวลานานนับพันปี จากนั้นให้ท่านชมวิวและถ่ายรูป ยอดเขาจูโมฮารี ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภูฏาน 7,340 ( จูโมฮารีจะเห็นได้เฉพาะในหน้าหนาว ) |
||||||||
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม โรงแรม Hotel Olathang หรือ Tashi Namgey Resort and Spa - Paro หรือเทียบเท่า
|
||||||||
วันที่ห้า |
พาโร – กรุงเทพฯ
|
||||||||
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหารเช้าอิสระตามอัธยาศัย หรือหากมีเวลาเหลือ นำชม วัดดุงเช (Dungtse Lhakhang) หรือ วิหารมืด ท่านจะได้ชมภาพวาดทางพระพุทธศาสนา อายุกว่า 100 ปี แต่ยังคงสีสันสดใส ซึ่ง ภายในไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างจากนั้นเดินทางสู่ท่าอากาศยานเมืองพาโร
|
||||||||
10.35 น. |
ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ด้วยสายการบินภูฏาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ B3-700
|
||||||||
15.50 น. |
ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
|
||||||||
|
|||||||||
**รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นหลัก** |
|||||||||
อัตราค่าบริการ
|
|||||||||
หมายเหตุ : * ออกเดินทางเดินทาง 15 ท่านขึ้นไป * ราคานี้ไม่รวม ทิป ไกด์ , คนขับ , รถกระเป๋า ท่านละ 30 USD |
|||||||||
อัตราค่าบริการนี้รวม
|
|||||||||
- โรงแรมที่พัก 4 คืน พร้อมอาหารเช้า ตามโปรแกรมท่องเที่ยวด้านบน
- อาหารทุกมื้อตามที่ระบุในโปรแกรม - ไกด์ท้องถิ่น (พูดภาษาอังกฤษ) - รถรับ-ส่งสนามบิน และตลอดการเดินทางตามโปรแกรมด้านบน - รายการท่องเที่ยวตามโปรแกรมด้านบน - ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ - น้ำดื่มวันละ 3 ขวดต่อ 1 ท่าน - ค่าวีซ่าภูฏานและค่าภาษีท่องเที่ยวรัฐบาลภูฏาน - ประกันภัยการเดินทาง - ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดและภาษีสนามบินภูฏาน (สายการบินภูฏาน แอร์ไลน์) |
|||||||||
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
|
|||||||||
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากที่ระบุในโปรแกรมด้านบน
- ทิปไกด์และคนขับรถ แต่ยังไม่รวมค่าทิป หัวหน้าทัวร์ ท่านละ 30 USD - ทิปหัวหน้าทัวร์ |
|||||||||
เอกสาร
|
|||||||||
การยื่นวีซ่า |
|||||||||
การจองและชำระเงิน
|
|||||||||
ทางบริษัทฯ จะขอเก็บเงินค่ามัดจำเป็นจำนวน 20,000 บาท ต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน(ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบินภูฏาน แอร์ไลน์) สำหรับการจองทัวร์ส่วนที่เหลือจะขอเก็บทั้งหมดก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วันทำการ มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่ามัดจำทั้งหมด |
|||||||||
** หมายเหตุ ทางเราขอสงวนสิทธิ์ที่นั่งสำหรับท่านที่ชำระเงินมัดจำแล้วเท่านั้น และสำหรับลูกค้า Magic On Tour ที่ชำระค่าบริการโดยการโอนเงินผ่านธนาคาร หลังจากที่ท่านโอนเงินแล้วขอความกรุณา ส่ง FAX ใบ PAY –IN มาที่หมายเลขโทรสาร 02-809-4989**
|
|||||||||
การยกเลิก
|
|||||||||
•หากมีการยกเลิกจะต้องแจ้งทางบริษัทก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วันทำงาน มิฉะนั้นบริษัทฯจะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทั้งหมด
•หากผู้โดยสารท่านใด ยื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติ ผู้โดยสารต้องชำระค่ามัดจำที่ 10,000 บาท และค่าวีซ่า ตาม ที่สถานทูตเรียกเก็บ •หากผู้โดยสารท่านใด วีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนออกตั๋วโดยสารเครื่องบิน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำ |
|||||||||
หมายเหตุ
|
|||||||||
1. การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวน 15 ท่านขึ้นไป ถ้าผู้โดยสารไม่ครบจำนวน ดังกล่าว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง 2. กรุณาชำระมัดจำ ท่านละ 20,000.- บาท หากมีการยกเลิกภายหลัง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนมัดจำค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ กรุณาชำระ 14 วันก่อนการเดินทาง หรือเมื่อส่งเอกสารยื่นวีซ่า 3. เมื่อทำการออกตั๋วเครื่องบินแล้ว และมีการยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทไม่สามารถทำการรีฟันด์ตั๋วได้ เนื่องจากเงื่อนไขของสายการบิน 4. กรุณาทำการจองที่นั่งล่วงหน้าอย่างต่ำ 15วัน ก่อนเดินทาง เนื่องจากเวลาดำเนินการในการทำวีซ่าใช้เวลา ประมาณ 10 วัน 5.รายการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมเนื่องจากความล่าช้าของสายการบินโรงแรมที่พักในต่างประเทศเหตุการณ์ทางการเมืองและภัยธรรมชาติฯลฯบริษัทฯจะคำนึงถึงความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ 6.บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองห้ามผู้เดินทาง เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งของห้าม นำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ ความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใดๆก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมดหรือบางส่วน 7.บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่สถานทูตงดออกวีซ่า อันสืบเนื่องมาจากตัวผู้โดยสารเอง 8.บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยงดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติหรือ คนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย |