ไทเป (Taipei)

5259 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไทเป (Taipei)

ไทเป (Taipei)




ไทเปคือเมืองหลวงของไต้หวัน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเมืองการปกครองและเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีความเป็นสากล ไทเปมีจำนวนประชากรทั้งสิ้นสองล้านหกแสนคน เป็นที่ตั้งของตึกไทเป 101 ( Taipei 101 Tower ) ซึ่งเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก มีระบบรถไฟฟ้าที่สะดวกรวดเร็ว มีบรรยากาศยามค่ำคืนที่คึกคักสนุกสนาน มีอาหารนานาชาติ และเป็นหนึ่งในเมืองขนาดใหญ่ในทวีปเอเชียที่มีย่านการค้าที่คับคั่งที่สุด อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดการแสดงชั้นนำระดับโลกอยู่เสมอ นอกจากด้านความทันสมัยแล้ว ไทเปยังคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันเก่าแก่ นั่นคือเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกู้กงอันเลื่องชื่อ ( National Palace Museum)ที่จัดแสดงโบราณวัตถุเครื่องใช้ใน

พระราชวังจีนอาจเรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ของชาวจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ อีกทั้งในตัวเมืองไทเปก็ยังมีโบราณสถาน ถนนสายเก่า และวัดวาอาราม ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย นอกจากนี้ ชานเมืองไทเป ยังมีอุทยานแห่งชาติภูเขาหยางหมิงอยู่ด้วย ภูเขายาง
หมิงเป็นพื้นที่พิเศษเพราะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตามแนวภูเขาไฟ ซึ่งมีพืชนานาพันธุ์ในพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่มีเส้นทางการเดินชมทัศนียภาพอยู่หลายสาย ไว้ให้ชาวเมืองไทเปได้มาพักผ่อนหย่อนใจใกล้ชิดธรรมชาติ

ตามบันทึกของประวัติศาสตร์จีนกล่าวว่าเกาะไต้หวันแห่งนี้อาจเป็นที่รู้จักในราชวงศ์จีนมาเป็นเวลานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ถึงแม้ว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้รับความสนใจมากนักเนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านที่ห่างไกล การมาตั้งถิ่นฐานของชาวฮั่นในปีค.ศ. 1200 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไต้หวันเป็นที่รู้จักในสังคมการเมืองของโลกมากขึ้น

พ่อค้าชาวโปรตุเกสได้เข้ามาทำสัญญาการค้าในศตวรรษที่16 และเพิ่มไต้หวันรวมในชัยชนะเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นการปูทางให้นักล่าอาณานิคมชาวสเปนและชาวดัตช์เข้ามาในปี ค.ศ. 1600 ซึ่งต่อมาประสบความสำเร็จในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์และจูงใจให้ชาวอะบอริจินบางส่วนเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ได้ ก่อนจะถูกกองกำลังจากจีนแผ่นดินใหญ่ขับไล่ออกไป การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพบนแผ่นดินใหญ่ทำให้จีนไม่สามารถพัฒนาไต้หวันได้มากเท่าใด จนกระทั่งปีค.ศ. 1800 เกาะแห่งนี้เริ่มต้นการสร้างรากฐานเพื่อพัฒนาประเทศ ต่อมาปลายศตวรรษที่ 19 นักล่าอาณานิคมชาวญี่ปุ่นเข้ามาบุกรุกแย่งชิงเกาะไต้หวันไปจากราชวงศ์ชิง และเข้ามาวางรากฐานต่างๆไว้ ซึ่งหลายทศวรรษต่อมาได้เห็นการพัฒนาความก้าวหน้าด้านรถไฟและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ก้าวไปพร้อมกับการเติบโตขึ้นเป็นเมืองหลวงที่มีประสิทธิภาพของไต้หวัน
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ไต้หวันถูกส่งมอบคืนให้กับประเทศจีน นายพล เจียง ไคเช็ก หลบหนีการกบฏจากจีนแผ่นดินใหญ่และกลายมาเป็นผู้นำคนสำคัญในไต้หวัน เขาปกครองไต้หวันด้วยระบบพรรคเผด็จการทหาร ต่อมาเมื่อนายพลเจียง ไคเช็กถึงแก่อสัญกรรมอำนาจได้ถูกส่งต่อไปยังลูกชายและได้เปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย

ไต้หวันได้รับการช่วยเหลือด้านการเงินจากประเทศทางตะวันตกซึ่งต้องการที่หยุดยั้งการขยายตัวของระบอบคอ มมิวนิสต์ การกระตุ้นเศรษฐกิจนำไปสู่ยุคเฟื่องฟูของไต้หวันและได้รับขนานนามให้เป็นหนึ่งใน ’เสือแห่งเอเชีย’ (Asian Tigers) ในปี 1990
ปัจจุบันไทเปถือเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมของชาติที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งยังคงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงามจากอดีต ทั้งพุทธศาสนาและลัทธิเต๋ามีการปฏิบัติอย่างทั่วถึงทั้งในเมืองและชนบทควบคู่กับงานฉลองเทศกาลตรุษจีนที่ปฏิบัติต่อกันมานับพันปีตามปฏิทินจีน

ภูมิอากาศ

ไทเปเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ มีภูมิอากาศอยู่ใกล้เขตโซนร้อน มีความชื้นสูง ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนคือช่วงฤดูร้อน อากาศร้อนมาก ฤดูหนาวจะมีระยะเวลาสั้นมากแต่ก็หนาวมาก โดยปกติคือ ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ สภาพอากาศของไทเปยากที่จะคาดการณ์ล่วงหน้าได้ และมักจะมีความแปรปรวนสูง ช่วงกลางวันมีอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส ( 77 องศาฟาเรนไฮต์) ช่วงกลางคืนมีอุณหภูมิประมาณ 15 องศาเซลเซียส ( 59 องศาฟาเรนไฮต์)

อำเภอทั้งหมด 12 อำเภอ
เมืองไทเปแบ่งออกเป็น 12อำเภอ แต่ละอำเภอจะแบ่งออกเป็นหลายหมู่บ้าน และแบบย่อยไปอีก เรียกว่าย่าน
 

 



ย่านกลางเมือง
Central districts
อำเภอของไทเป
Wanhua (萬華區)
เป็นย่านเก่าแก่ที่สุดในไทเป มีบ้านที่สร้างขึ้นตามประวัติศาสตร์จีน มีวัดและโรงละคร The Red House เปรียบได้ว่าย่านแห่งนี้คือฮาราจุกุของกรุงไทเป บริเวณบ้านใกล้เรือนเคียงคือแหล่งช็อปปิ้งสินค้าแฟชั่นของวัยรุ่น ที่ได้วัฒนธรรมจากญี่ปุ่นซึ่งนำมาผสมผสานกับวัฒนธรรมสมัยใหม่
 
Datong (大同區)
เป็นหนึ่งในย่านที่มีพื้นที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดในไทเป ที่บ่งบอกถึงลักษณะของเมืองไทเปได้เป็นอย่างดี ใช้เป็นศูนย์กลางของเมือง ต่อมาต้องศูนย์เสียความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจให้แก่เขต Zhongzheng, Daan, และ Xinyi ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในเรื่องสถาปัตยกรรมของราชวงศ์ชิง และร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรจีน
Zhongzheng (中正區)
เป็นศูนย์กลางทางการเมืองของไต้หวัน เป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานประธานาธิบดี และกระทรวงสำคัญต่างๆของรัฐบาล สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญคือ ห้องจัดแสดงนิทรรศการเจียงไคเช็ค
 
Zhongshan (中山區)
อยู่ริมแม่น้ำของสวนสาธารณะ มีศาลเจ้า Martyrs Shrine พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิจิตรศิลป์ ผับและบาร์ขนาดใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก
 
Daan (大安區)
เป็นย่านการค้าที่ทันสมัย ตอนเหนือของ Daan มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย ยามค่ำคืนจะมีบาร์และร้านอาหารที่เป็นที่นิยม และยังมีอสังหาริมทรัพย์ที่แพงที่สุดในไทเป ทางตอนใต้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติของไต้หวัน
 
Xinyi (信義區)
เป็นย่านธุรกิจการเงินที่ทันสมัยของไทเป มีตึก Taipei 101 และศูนย์การประชุมนานาชาติ มันจึงเป็นเมืองห้างสรรพสินค้าจำนวนมากและสถานที่บันเทิงที่ทันสมัยที่สุดในกรุงไทเป
Songshan (松山區)
มีบริษัทและสถาบันการเงินมากที่สุด ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือ มีถนนคนเดิน Racha ซึ่งเป็นตลาดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงในไทเป
 
Beitou (北投區)
ย่านนี้มีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนและอุทยานแห่งชาติ Yangmingshan
Shilin (士林區)
พื้นที่ดั่งเดิมของเมืองไทเป มีพิพิธภัณฑ์ที่โดดเด่นทางสถาปัตยกรรม มีพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ในเมือง หมู่บ้าน Shilin เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในไทเป
Neihu (內湖區)
ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทเป เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมไอทีของไทเป มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงด้านการเดินป่า
 
Nangang (南港區)
ตั้งอยู่ติดกับย่าน Neihu มีไอทีคอมแพล็ก และอุตสาหกรรมรถยนตร์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเมือง
 
Wenshan (文山區)
 

เป็นย่านที่ประกอบด้วยสองเขตดั่งเดิม คือ Muzha และ Jingmei ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของไทเป มีสวนชาและสวนสัตว์ไทเปเป็นสถานที่ท่องเที่ยว

 
สถานที่ท่องเที่ยว
1.ตึกไทเป 101(Taipei 101) 

 



อาคารไทเป 101 เป็นตึกที่เคยติดอันดับเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก ในปี 2547-2550 ก่อนที่ตึก Burj Khalifa ของ Dubai จะมาแย่งชิงตำแหน่งไปในปี 2550 ตึกมีความสูงกว่า 508 เมตร มีทั้งหมด 101 ชั้น และตั้งอยู่ใจกลางเมืองซิ่นยี่ กรุงไทเป ภายในอาคารได้รับการออกแบบระดับโลก และลักษณะทางสถาปัตยกรรมทำให้การจับจ่ายซื้อสินค้ากลายเป็นเรื่องที่เพลิดเพลินที่นี่ ชั้น B1 มีร้านขายอาหารไต้หวันอยู่จำนวนมาก ชั้นที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวกรุงไทเป โดยรอบอยู่ชั้นที่ 89
ความคิดในการก่อสร้างตึกไทเป 101 ได้เริ่มในปี ค.ศ. 1997 ขณะที่นาย Chen Shui-bian เป็นผู้ว่านครไทเป ความคิดแต่แรกจะสร้างตึกเพียง 66 ชั้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของละแวกธุรกิจใหม่ของไทเปเท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้ขยายโครงการขึ้นไปเรื่อย ๆ    จนกลายเป็นตึก 101 ชั้น และได้เริ่มทำการก่อสร้างในหน้าร้อนของปี ค.ศ. 2000 และได้มีพิธีเปิด     เป็นทางการเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2004     โดยนาย Chen Shui-bian ซึ่งได้กลายเป็นประธานาธิบดีไปแล้ว นาย Ma Ying-jeou ผู้ว่านครไทเปและนาย Wamg Jin-pyng ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ตัดริบบิ้น ตามด้วยการแสดงคอนเสิร์ตของดารามีชื่อ และการจุดดอกไม้ไฟต้อนรับปี ค.ศ. 2005

ตั้งอยู่ในบริเวณศูนย์ธุรกิจใหม่ของไทเปในตำบล 101 และรายล้อมไปด้วยธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ ศูนย์การประชุมนานาชาติ โดยตึกนี้มีชื่อเป็นทางการภาษาจีนซึ่งแปลว่า ศูนย์การเงินโลกแห่งไทเป แต่เนื่องจากตึกนี้ก็มี 101 ชั้นด้วย จึงนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า ตึก 101 ตึกนี้มีลักษณะแปลกอยู่ประการหนึ่ง คือแทนที่จะจัดทางเข้าชมตึกไว้ตั้งแต่ชั้นล่าง กลับให้ผู้คนขึ้นบันไดเลื่อนผ่านร้านรวงแบรนด์เนมทั้งหลายไปถึง 5 ชั้นจึงจะถึงบริเวณที่จัดให้ผู้คนขึ้นไปชมตึก  โดยผู้ใหญ่ต้องเสียค่าเข้าถึงคนละประมาณ 400บาททีเดียวตึกไทเป 101 สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1999 ไปเสร็จสมบูรณ์เอาในปี ค.ศ. 2007 มีความสูง 509.2 เมตร หรือ 1,670.60 ฟุต มีเนื้อที่ใช้สอย 412,500 ตารางเมตร มีลิฟต์รวมทั้งสิ้น 61 ตัว และค่าก่อสร้างทั้งหมดคิดเป็นเงิน 1,758,000,000 เหรียญสหรัฐ สถาปนิกคือ นาย C.Y.Lee และออกแบบเป็นรูปลักษณ์ของสถูปจีนแต่เป็นลักษณะสมัยใหม่ประกอบด้วยกระจกสีฟ้าเขียว

2.พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกู้กง (National Palace Museum)



ตั้งอยู่ที่เชิงเขาทางตอนเหนือของไทเป พิพิธภัณฑ์นี้เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีลักษณะเป็นแบบพระราชวังโบราณซึ่งมีขนาดใหญ่โตและซับซ็อน ภายในเต็มไปด้วยงัตถุล้ำค่าจากจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจำนวนเกือบ 700,000 ชิ้นซึ่งส่วนใหญ่เป็นของสะสมของราชวงศ์จีนที่มีมานานกว่าพันปี โดยหลังจากได้มีการบูรณะมาตลอดสิบปีที่ผ่านมานั้น ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงวัตถุเหล่านี้ให้เป็นหมวดหมู่ตามลำดับเหตุการณ์ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าชม อีกทั้งยังเห็นได้ชัดถึงอิทธิพลของมุสลิมที่มีต่อประวัติศาสตร์จีนอีกด้วย สำหรับการเข้าชมสามารถเข้าชมได้ตลอด โดยมีไกด์ในทุกภาษา เช่นเดียวกับระบบเสียงคอยช่วยบรรยายให้ นอกจากนี้ ยังมีร้านชาและร้านอาหารต่างๆ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวรอบๆ และให้บริการอาหารจีนโบราณและแบบไต้หวันอีกด้วย

 

 

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์อันดับต้นๆของโลก เป็นสถานที่รวบรวมศิลปวัตถุโบราณที่มีค่ามหาศาล อายุกว่า 5,000 ปี จากยุคหินใหม่ จนถึงสมัยราชวงศ์ชิง ในตอนต้นศตวรรษ ที่ 20 ศิลปวัตถุมีค่าดังกล่าว ประกอบด้วย เครื่องเคลือบ เครื่องทองเหลือง หยก งานแกะสลัก ภาพวาด และงานเขียนลายมือ รวมกว่า 650,000 ชิ้น รูปแบบภายนอกจำลองจากพระราชวัง กู้กงของเมืองปักกิ่ง มีการจัดแสดง ศิลปวัตถุ อย่างเป็นหมวดหมู่ อาทิ เครื่องทองเหลือง เครื่องเซรามิก งานศิลป์ และ งานเขียนลายมือ สถานที่แห่งนี้เป็นที่ๆเราสามารถเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างประวัติศาสตร์กับศิลปะจีน นอกจากนี้ ยังจัดแสดง งานศิลปะร่วมสมัย ทางเข้าที่ท่านเข้าสู่พิพิธภัณฑ์คือความงดงามของสวนจี๋ชานที่ออกแบบโดย งานเขียนลายมือของ หวัง ซื่อ ฉี ที่ วาดภาพออกมาสะท้อนถึงความงามของสวนแบบจีนได้อย่างสมบูรณ์

3.อนุสรณ์สถานวีรชน(The Martyr’s Shrine)



ตั้งอยู่ด้านขวาถัดจากโรงแรมแกรนด์ เป็นที่สักการะดวงวิญญาณของทหารจำนวน 330,000 คน ที่สังเวยชีวิตในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่น และสงครามกลางเมืองของประเทศจีน มีการจัดพิธีสักการะ โดยทหารจะแต่งเครื่องแบบและเดินสับเปลี่ยนเวนยามทุกชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เป็นภาพที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

 

4.ทำเนียบประธานาธิบดี(President house)



อาคารสวยสง่าสไตล์เรอเนซองส์ อันที่เป็นที่ทำงานของประธานาธิบดี สร้างเมื่อครั้งถูกครอบครองโดยญี่ปุ่น ช่วงปี ค.ศ.1895-1945ซึ่งใช้เป็นสำนักงานใหญ่ของรัฐบาลในสมัยนั้น จวบจนกระทั่งปี ค.ศ.1919สถานที่แห่งนี้จึงถูกใช้เป็นทำเนียบบัญชาการสูงสุดต่อมาถูกทำลายอย่างมากในสมัยสงครามโลกครั้งที่2และได้รับการบูรณะใหม่ในปีค.ศ.1946และใช้เป็นที่ทำงานของประธานาธิบดี เมื่อรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีนย้ายมาอยู่ที่ไต้หวันเมื่อปี 1949จวบจนกระทั่งทุกวันนี้ ทุกๆปีในช่วงวันชาติ สถานที่แห่งนี้ จะตกแต่งด้วยไฟ อย่างสวยงาม และเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว

5.อนุสรณ์สถานเจียง ไค เช็ค( National Chiang Kai-shek Memorial Hall)



อนุสรณ์สถานเจียงไคเชค

อาคารแบบพระราชวังจีนอย่างโรงละครและคอนเสิร์ตฮอลล์แห่งชาาติ ซึ่งถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดของกรุงไทเปมานานเช่นเดียวกับโรงแรมแกรนด์โฮเต็ลก่อนหน้าที่จะมีการสร้างไทเป 101 ขึ้นมาเสียอีก โดยโรงละครและคอนเสิร์ตฮอลล์นี้ตั้งอยู่แต่ละด้านของลานกว้างหน้าอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คทั้งหมดนี้รวมเรียกว่า ศูนย์วัฒนธรรมเจียงไคเช็ค ด้วยโครงสร้างที่ใหญ่โตมหึมาและหลังคาที่ปูด้วยกระเบื้องสีทองทำให้ที่นี่ดูคล้ายกับพระราชวังต้องห้ามของกรุงปักกิ่งอย่างมาก

เป็นอาคารงดงาม ก่อสร้างขึ้นเป็นการรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดี เจียง ไค เช็ค ทำด้วย หินอ่อนสีขาว ส่วนของหลังคาประดับด้วยกระเบื้องกระจกสีน้ำเงินเข้ม พื้นที่ของสวนรอบอนุสรณ์สถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้ที่พำนักอาศัยในบริเวณรอบๆการจัดกิจกรรมกลางแจ้งหลายอย่างเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่แห่งนี้

6.พิพิธภัณฑ์ไต้หวันเมื่อวันวาน(National taiwan museum)



สถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นที่นิยมของนักเรียน นักศึกษา และบุคคลอื่นๆ ที่สนใจอยากรู้ว่าไต้หวันเมื่อ 30 ปี ที่แล้วเป็นอย่างไร โดยภายในพิพิธภัณฑ์ มีถนนที่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1970 สองข้างทางของถนนเต็มไปด้วยร้านค้าขาย ยาโบราณ ร้านตัดผม โรงเรียน และโรงแรม พิพิธภัณฑ์ ที่จำลองเรื่องราวในอดีตของไต้หวัน

7.วัดหลงซันซื่อ (Lung Shan Temple (250-years-old)





เป็นวัดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมไต้หวันแบบดั้งเดิม สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2281 แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาในศาสนาของชาวว่านหัว เต็มไปด้วยรูปแบบของปติมากรรมและสถาปัตยกรรมที่ประณีตงดงาม ภายในแบ่งออกเป็น สาม ส่วน ได้แก่ ส่วนหน้า ส่วนหลังห้องโถง และส่วนกลางของห้องโถง ประติมากรรมมังกรหินที่งดงามตั้งอยู่ด้านข้าง ทั้งยังเป็นสถานที่เก็บอัฐิของผู้ล่วงลับกว่า 100 คน จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้ามาสักการะ บูชาดวงวิญญาณในช่วงงานพิธีกรรมหรือเทศกาลต่างๆ

8.ศูนย์หัตถกรรมไต้หวัน(Taiwan’s ceramics center)



สถานที่รวมงานหัตถกรรมต่างๆ หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงประติมากรรม จิตรกรรม งานประดิษฐ์ตัวอักษร เครื่องประดับตกแต่ง ศิลปะจีนอื่นๆ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าเหล่านี้เพื่อเป็นที่ระลึก หรือของขวัญในราคาไม่สูงนัก และยังมีบริการจัดส่งระหว่างประเทศด้วย

9.อาคารชมวิวทิวทัศน์ชินกง(Shinkong Observatory Tower)



เป็นอาคารสูงระฟ้า ชื่อ ชิงกง มิตซูโกชิ ตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟไทเป เป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการชมเมืองไทเป สามารถขึ้นไปที่จุดชมวิวชั้น 46 และชมเมืองไทเปโดยรอบทั้งกลางวันและกลางคืน

10.สวนสัตว์ไทเป (Taipei Zoo)



ตั้งอยู่ที่เมืองมูจา สถานีปลายทางของรถใต้ดินสายมูจา เป็นสถานที่ อนุรักษ์ และ แหล่งเรียนรู้เกี่ยวสัตว์ แบ่งออกเป็น โซนๆแตกต่างกันไป ตามประเภทของสัตว์ มีทั้งศูนย์การศึกษาในร่ม อาทิ ศูนย์ผีเสื้อ และ สัตว์หากินกลางคืน และส่วนที่จัดแสดงกลางแจ้ง ได้แก่ สัตว์ท้องถิ่น สัตว์เลี้ยง และสัตว์จาก ออสเตรเลีย ทะเลทราย แอฟริกา นอกจากนี้ยังมี หมีโคล่า และนกเพนกวิน ซึ่งเป็นสัตว์ที่คนนิยมมาดูเป็นที่สุด

11. Red House Theatre



The Red House Theatre ที่ตั้งอยู่ในใจกลางแหล่งชุมชนของกรุงไทเป บริเวณ Ximending อันเป็นที่รวมของวัยรุ่น และห้างสรรพสินค้าจำนวนมาก อาคารอิฐสีแดงรูปทรงหกเหลี่ยมต่อด้วยตัวอาคารแนวนอนรูปไม้กางเขนดูไม่ต่างไปจากโบสถ์ในศาสนาคริสต์นี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1908 ในช่วงที่ไต้หวันยังตกอยู่ภายใต้การปกครองของมหาอำนาจญี่ปุ่น โดยฝีมือการออกแบบของสถาปนิกชาวญี่ปุ่น Kondo Juro เพื่อใช้เป็นตลาดสำหรับผู้คนชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในแถบประตูทิศตะวันตกของกรุงไทเป (Ximen แปลว่า ประตูทิศตะวันตก) ในชื่อตลาด Xinqi Street Market ที่เน้นขายผักขายดอกไม้ หนังสือ ยาจีน และของแห้งของดองต่างๆ จนกระทั่งในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ตัวอาคารเริ่มถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานเป็นโรงละครพูด และโรงภาพยนตร์ได้พร้อมกัน

ต่อมาอาคารอิฐสีแดงแห่งนี้ได้ถูกปล่อยทิ้งให้ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา จนกระทั่งทางรัฐและชุมชนเห็นความสำคัญก่อนที่จะได้อนุมัติให้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากเมืองไทเปให้เป็น 1 ใน 30 สถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไต้หวันในปีค.ศ.1997 และเริ่มการปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่ในปีค.ศ.1999 ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีค.ศ.2002 และรูปแบบของการพัฒนาครั้งนี้ยังทำให้หน่วยงานได้รับรางวัลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชนทางประวัติศาสตร์ (The 7th Urban Landscape Award in Historical Space Redevelopment Category) ในปี ค.ศ. 2008 อีกด้วย
จากเดิมที่ตัวอาคาร และบริเวณรอบๆ เคยเป็นย่านการค้า และตลาดเก่ามาก่อนนั้น The Red House Theatre ได้ถูกปรับบทบาทหน้าที่โดยเฉพาะในส่วนของตัวอาคารด้านหน้าชั้นบนที่เป็นรูปหกเหลี่ยมนั้น ได้จัดให้มีพื้นที่สำหรับการแสดงศิลปะการแสดงทั้งในแบบพื้นเมือง การแสดงละครพูด อีกทั้งการฉายภาพยนตร์ ก่อนช่วงการปรับปรุงพื้นที่ ดังนั้นเมื่อได้มีการปรับปรุงพื้นที่แล้ว ก็ยังได้มีการคงรูปแบบเวทีและระบบไฟรวมทั้งระบบเสียงให้มีลักษณะที่คล้ายรูปแบบเดิมไว้มากที่สุด แต่เพิ่มการให้เช่าพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะการแสดง รวมทั้งการเพิ่มกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้พื้นที่เพื่อการประชุมสัมมนาเพิ่มขึ้น โดยคิดค่าเช่าในราคาที่ไม่แพงนัก ส่วนบริเวณอาคารหกเหลี่ยมชั้นล่างได้ถูกปรับให้เป็นทางเข้าหลักของตัวอาคาร อันจะประกอบไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านขายชา และส่วนบริเวณที่ผู้เข้าชมสามารถนั่งเล่นได้ พร้อมกับบริเวณที่มีการจัดเป็นนิทรรศการเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมาของ The Red House พร้อมสิ่งของที่เกี่ยวข้องต่างๆ ที่ได้มีการจัดแสดงในตู้นิทรรศการ
ส่วนตัวอาคารรูปไม้กางเขนที่ต่อออกไปนั้น ด้านบนมีการปรับพื้นที่เพื่อเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ในขณะที่ด้านล่างได้ปรับให้เป็นส่วนร้านค้าในแบบ Selected Shop 16 ร้าน ที่เรียกว่า “Creative Boutique” อันเป็นส่วนที่จะมีการคัดเลือกร้านค้าของศิลปินหรือนักออกแบบอิสระที่สามารถเปิดร้านขายสินค้าที่มีการออกแบบและผลิตเองเพื่อขายแก่ผู้เข้าชมและผู้สนใจ ทั้งนี้นักออกแบบ และศิลปินจะต้องผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการก่อนที่จะได้เข้ามาเปิดร้านในตัวอาคารพร้อมกับสัญญา 1 ปี ซึ่งอาจจะมีการต่อสัญญาได้หากการดำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง ซึ่งสินค้าที่มีขายนั้นก็ล้วนมีลักษณะที่เน้นความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก
ในวันเสาร์ และอาทิตย์ โดยรอบคัวอาคารจะมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบตลาดนัดศิลปิน ที่บรรดานักออกแบบรุ่นใหม่สามารถที่จะมาเปิดร้าน และขายสินค้า หรือผลงานการออกแบบของตนให้กับผู้สนใจได้ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งของนักออกแบบที่จะมีโอกาสได้รับการพิจารณาเพื่อผ่านเข้าไปเปิดร้านในตัวอาคารก็มักจะเป็นนักออกแบบที่เปิดร้านในส่วนของด้านนอกตัวอาคารมาก่อน นอกจากนั้นส่วนรอบๆ ตัวอาคารยังได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นย่านร้านค้า และคลับที่ได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มชายรักชายในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย

12.ย่านซิเหมินติง (Ximending) 





เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นไทเป ที่นี่เป็นศูนย์รวมแห่งแฟชั่นทั้งสไตล์ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น รุ่นใหม่ทันสมัยให้เลือกซื้อเลือกช้อปกัน โดยเฉพาะในวันสุดสัปดาห์ ย่านนี้จะเต็มไปด้วย เหล่าบรรดาวัยรุ่นมาเดินเที่ยวกันอย่างเนืองแน่น ซีเหมินติง ยังมักถูกใช้เป็น จุดแถลงข่าวเปิดตัว เปิดอัลบั้มสำหรับนักร้องและวงดนตรีชื่อดังยอดนิยมของบรรดาวัยรุ่นไต้หวัน ส่งผลให้ย่านซีเหมินติง ที่เต็มไปด้วยผู้คนอยู่แล้ว ยิ่งหนาแน่นไปด้วยบรรดาวัยรุ่น แฟนคลับที่มาให้กำลังใจศิลปินในดวงใจของตัวเอง

13. Shung Ye Museum of Formosan Aborigines



คือพิพิธภัณฑ์เอกชนดั่งเดิมแห่งแรกในไต้หวัน ลักษณะของพิพิธภัณฑ์เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู สีเทา กระจกและเสาหินตรงกลางพิพิธภัณฑ์ แกะสลักตามสถาปัตยกรรมดั่งเดิมของไต้หวัน อย่างเป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมดั่งเดิมของไต้หวัน พิพิธภัณฑ์ยังสร้างกิจกรรมควบคู่กับการเรียนรู้เพื่อแนะนำประชาชนให้มีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และภูมิปัญญาของชนเผ่าพื้นเมืองที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 โดยชาวพื้นเมืองที่เชียวชาญด้านการประดิษฐ์

14. Zhongshan Hall

 



 

สร้างขึ้นในปี 1928 โดยชาวญี่ปุ่น ช่วงล่าอาณานิคม เพื่อรำลึกถึงจักรพรรดิ ฮิโรฮิโตะ ของญี่ปุ่น อาคารได้ใช้กระเบื้องหลังคาสีเขียวอ่อน เพื่อที่จะทำให้เครื่องบินทิ้งระเบิดไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ หน้าต่างออกแบบอย่างคลาสสิก ในสไตล์อิสลามของประเทศสเปน สามารถจุผู้คนได้ถึง 1,500 คน หลังจากได้รับการปรับปรุงในปี 2001 ได้สร้างม้านั่งเพิ่มแถวบน 20ตัว แถวล่าง 14ตัว ตามลำดับ




15. Sun Yat-sen Memorial Hall



 

อนุสรณ์สถาน ดร.ซุนยัดเซ็น

ดร.ซุนยัดเซ็นเป็นที่เคารพนับถือในฐานะบิดาของจีนสมัยใหม่ อนุสรณ์สถาน ดร.ซุนยัดเซ็นและบริเวณโดยรอบนั้นมีพื้นที่ครอบคลุมเกือบทั้งบล็อคทางฝั่งใต้ของถนนจงเสี้ยตะวันออก อาคารใหญ่โตแห่งนี้โดดเด่นด้วยหลังคาโค้งสไตล์พระราชวังจีนโบราณที่ปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง สถานที่แห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแสดงที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน โดยใช้เป็นที่จัดแสดงภาพยนตร์และละครเพลงระดับชาต
สร้างในปี 1972 ตั้งอยู่ในทิศตะวันออกของไทเป อยู่ใกล้กับที่ตั้งของรัฐบาลไทเป สร้างเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบวันตาย 100ปีของ ซุน ยัดเซน เปรียบเหมือนพ่อของเมืองนี้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างพระราชวังของจีน มีรูปปันของ ซุนยัดเซ ตั้งอยู่หน้าอาคาร ใช้สำหรับให้ประชาชนมาเคารพสักการะ สามารถจัดคอนเสิร์ต ที่สามารถจุคนได้มากกว่า 3,000 คน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จนได้กลายเป็นสถานที่สำคัญที่ใช้จัดงานต่างๆมากมาย อาคารหลักล้อมรอบด้วยระเบียงยาวคดเคี้ยว มีห้องนิทรรศการ 4 ห้องขนาดใหญ่ ควบคู่กับศิลปินที่มีชื่อเสียง ภายนอกอาคารหลักนิยมเล่นว่าว มีลานสเก็ต  มันจึงเป็นสถานที่เหมาะสำหรับให้ประชาชนมาใช้เล่นกีฬาและกิจกรรมนันทนาการ

 

 

16. Shilin Night Market



เป็นตลาดยามค่ำคืนแห่งหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในไทเป ศูนย์กลางของตลาดมีโรงละคร Yangming และวัด Cicheng สร้างในปี 1899 เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงด้านอาหาร ผู้มาท่องเที่ยวสามารถมาเพลิดเพลินกับการลิ้มลองรสชาติอาหารแสนอร่อย เช่น แพนเค้กขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกัน  สุกี้หม้อร้อน และไส้กรอก สภาพโดยรวมของตลาดควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เมื่อเดินตามถนนตรอกซอกซอย คุณจะได้พบอาหารท้องถิ่นที่หาทานได้ยาก ตลาดกลางคืนแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงวันหยุด เรามักเห็นครอบครัวหลายครอบครัวมาเดินช็อปปิ้งและทานอาหาร

17. raohe stree night market



อยู่ในถนน Raohe มีพื้นที่ยาว 600เมตร เป็นศูนย์กลางธุรกิจการขนส่งสินค้า สร้างขึ้นในปี 1987 เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไทเป โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายและอาหารท้องถิ่นที่รอให้นักท่องเที่ยวมาเลือกสรร

18. Dihua street market  



เป็นตลาดร้านขายของชำ ที่เป็นที่นิยมที่สุดในเทศกาลตรุษจีน ตั้งอยู่ในย่านต้าถง เมืองไทเป มีพื้นที่ยาว 800 เมตร วันธรรมดาจะเป็นถนนที่ค่อนข้างเงียบสงบ ถนนแห่งนี้จะมีชืวืตชีวาก็ต่อเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนวันตรุษจีน สร้างขึ้นในปี 1850 เป็นศูนย์การค้าที่สำคัญสำหรับการหาซื้อสมุนไพรจีนและยารักษาโรค นอกจากนี้ร้านค้าสองข้างทางสร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ดั่งเดิม ฝูเจี้ยน

19. Yangmingshan National park 





เรารู้จักกันดีว่าอุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมในหลายภูเขาของไทเป ย่าน Shilin ย่านBeitou รวมถึงเมืองนิวไทเป คือย่าน Tamsui ย่าน Sanzhi ย่าน Shimen ย่าน Jinshan และย่าน Wanli พรมแดนทางทิศตะวันออกของอุทยาน ตั้งอยู่ทิศตะวันออกขอวภูเขา Huangtsui และภูเขา Wuchih และจะขยายไปทางทิศตะวันตกเท่าที่เนินเขาจะสามารถขยายไปได้ พรมแดนทางทิศเหนือจะมีภูเขา Hunglu และภูเขา Miantian เยื้ยงลงไปถึงถนน

อาหาร

 



Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้